วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แอปเปิ้ล ผลไม้เพื่อสุขภาพ



APPLE




การรับประทานผลไม้จึงเป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งการลดน้ำหนัก และการมีสุขภาพที่สดใส เพราะผลไม้ประกอบไปด้วยเส้นใยอาหาร (Fiber) ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องมีน้ำตาลธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ ผลไม้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกนับไม่ถ้วน ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ไม่ทรุดโทรม จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเป็นที่สุด

เมื่อถามคนใกล้ตัวว่า "อยากลดน้ำหนักจะทานผลไม้อะไรดี?" เชื่อว่าคงได้คำตอบกว่าครึ่งเป็นผลไม้รูปร่างอวบอัดที่ชื่อว่า "แอปเปิ้ล" แน่ ๆ เพราะแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีสีสันชวนรับประทาน เนื้อสัมผัสกรอบ รสชาติอร่อย กลิ่นหอม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพง และที่สำคัญคือไม่ทำให้อ้วน แอปเปิ้ลจึงได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก"

กินแอปเปิ้ลวันละ 1 ผล ร่างกายแข็งแรง

แอปเปิ้ลให้สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและวิตามินซีเป็นหลักซึ่งปริมาณวิตามินซีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว และความสด เนื้อแอปเปิ้ล 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 6 มิลลิกรัม และให้พลังงานราว 59 แคลอรี ไม่ทำให้อ้วน แต่แอปเปิ้ลก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์ชนิดอื่นทดแทน แบบที่เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าผลไม้อื่นแต่อย่างใด

พลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจคือ แอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนกินขนมหวาน จึงเหมาะกับคนไข้เบาหวานด้วยเช่นกัน

เปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่า "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก ช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้อวัยวะในทางเดินอาหารมีการทำงานเป็นปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ และยังช่วยจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่และสารอาหารที่มีประโยชน์อีกหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ บี 1 บี 2 บี 6 ไบโอติน กรดโฟลิกกรดแพนโทเธอนิค เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน สารอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะวิตามินซี และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในแอปเปิ้ล จะช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

แอปเปิ้ลเขียว หรือ แอปเปิ้ลแดง ที่มีประโยชน์มากกว่ากัน

เมื่อวิเคราะห์จากคุณค่าสารอาหารต่าง ๆ เปรียบเทียบระหว่าง

แอปเปิ้ลเขียวและแอปเปิ้ลแดง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่แอปเปิ้ลแดงมีเหนือกว่าเล็กน้อยคือ ปริมาณของสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์นั่นเอง

ดื่มน้ำแอปเปิ้ล ก็ได้ประโยชน์เท่ากินทั้งลูก?

จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะพบว่าประโยชน์ของแอปเปิ้ลมาจากองค์ประกอบ 3 ตัวด้วยกันคือ จากเส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากบริเวณเปลือก และจากน้ำตาลฟรักโทสที่มีมากในเนื้อแอปเปิ้ล ดังนั้นหากต้องการดื่มน้ำแอปเปิ้ล ควรเลือกวิธีการปั่นทั้งผล โดยไม่ต้องปอกเปลือก เพราะหากใช้วิธีคั้นน้ำ จะทำให้ได้เฉพาะน้ำตาลและสารต้านอนุมูลอิสระอีกเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้อ้วนได้มากกว่าเดิม และไม่ได้รับประโยชน์ทั้งหมดจากแอปเปิ้ลอย่างครบถ้วน

กินแอปเปิ้ลอย่างไรให้ได้ประโยชน์

ในแง่โภชนาการ แอปเปิ้ลไม่ใช่ผลไม้ที่มีวิตามินหรือแร่ธาตุในปริมาณสูงมากนัก เมื่อเทียบกับกล้วย ฝรั่งหรือส้ม แต่หากทานแอปเปิ้ลวันละ 2-4 ลูก โดยไม่ปอกเปลือกก็จะได้รับเส้นใยอาหารและสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ

ในปัจจุบันมีการกล่าวอ้างสรรพคุณของแอปเปิ้ลมากมาย เช่น บำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และฆ่าเชื้อไวรัส ซึ่งหากต้องการจะรับประทานแอปเปิ้ลสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมน้ำหนักแล้ว ก็ควรต้องทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผักผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย




























ตำนานกรีกโรมัน ตอน ฮาเดสกับเพอร์ซีโฟเน่


Hades & Persephone




ซีอุสได้กักขังยักษ์ 4 ตนไว้ที่ภูเขาเอตนา บนเกาะซิสิลี ในทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน
(บางที่ว่าขังเทพอสูรไตตันไทฟีอัส) ยักษ์นั้นก็ดิ้นรนจนแผ่นดินสะเทือน กินวงกว้างไปถึงยมโลก ฮาเดสเกรง อาณาจักรของตนจะเสียหาย จึงทรงรถเทียมม้าไฟ 4 ตัว ขึ้นมาดูบนพื้นโลกเทพีอโพรไดท์ (Aphrodite : ชื่อกรีก) หรือ วีนัส (Venus : ชื่อโรมัน) ได้เห็นฮาเดส ซึ่งตลอดมายังเป็นโสด ไม่มีชายาเลย จึงใช้ลูกชายของตน คือ อีรอส ให้ยิงศรรักใส่ฮาเดส ให้ฮาเดสหลงรักคนคนแรกที่ได้พบเห็น

และสาวดวงตกประจำวันนั้นคือ เทวีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เพอร์ซีโฟเน่

(Persephone : ชื่อกรีก)หรือ พรอสเซอร์ไพน์(Proserpine : ชื่อโรมัน) ธิดาแห่งเทพซีอุสกับเทวีแห่งธัญญาหารดีมิเทอร์ (Demeter : ชื่อกรีก) หรือ ซีรีส (Ceres : ชื่อโรมัน) ซึ่งถ้านับญาติแล้ว ฮาเดส กับ เพอร์ซีโฟเน่ก็เป็นลุงกับหลานสาวแท้ๆกัน แต่เมื่อฮาเดสมองเห็นเพอร์ซีโฟเน่ ก็เกิดหลงรักทันที ด้วยฤทธิ์ศรอีรอส ขณะนั้นเพอร์ซีโฟเน่กำลังเก็บดอกไม้อยู่ในท้องทุ่งพร้อมกับบริวารของนาง ฮาเดสก็จึงตรงเข้าไปฉุดตัวนางขึ้นรถทันที ระหว่างที่ฮาเดสกำลังขับราชรถจะกลับลงยมโลก ได้ผ่านแม่น้ำไซเอนี (Cyane) แม่น้ำก็เกิดปั่นป่วนพยายามจะสกัดขัดขวางเทพฮาเดส ด้วยความพิโรธฮาเดสจึงใช้ด้ามคทาคู่พระหัตถ์ ลักษณะเป็นง่าม 2 แฉกด้ามยาว) กระแทกพื้นดิน พลันแผ่นดินก็แตกแยกเป็นช่องทางลึกลงจนถึงยมโลกแล้ว ฮาเดสก็ขับราชรถลงไปตามช่องทางนั้น แต่ก่อนที่ราชรถจะลงไปใต้พื้นดิน เพอร์ซีโฟเน่ก็แก้สายรัดพระองค์ขว้างลงแม่น้ำไซเอนี แล้วร้องบอกให้นางอัปสรประจำแม่น้ำช่วยนำไปให้เทวีดีมิเทอร์ มารดาของนางด้ว

ฝ่ายเทวีดีมิเทอร์ได้ยินเสียงลูกสาวร้องให้ช่วย ก็ออกตามหาจนมาถึงแม่น้ำไซเอนี นางอัปสรประจำแม่น้ำเกรงกลัวฮาเดสจึงได้ แต่พัดพาเอาสายรัดพระองค์ของเพอร์ซีโฟเน่ มาให้ดีมิเทอร์เห็น นางเห็นสิ่งของของลูกสาวก็ยิ่งโศกเศร้าคร่ำครวญหนักขึ้น นางอัปสรแห่งสายน้ำพุ อาเรธูซ่า (Arethusa) จึงบอกแก่ดีมิเทอร์ว่าขณะที่นางพวยพุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพ ได้เห็นเพอร์ซีโฟเน่นั่งอยู่บนบัลลังก์หินอ่อนสีดำ เป็นราชินีแห่งยมโลก เคียงคู่เทพโลกันตร์ฮาเดส

เมื่อรู้ว่าลูกสาวถูกฮาเดสลักพาตัวไป ดีมิเทอร์ก็ไปร้องเรียนต่อซีอุส ขอให้ช่วยพาลูกของนางกับพระองค์กลับมาซีอุสก็ส่งเทพเฮอร์มีส (Hermes : ชื่อกรีก) หรือ เมอร์คิวรี่ (Mercury : ชื่อโรมัน) ลงไปเจรจากับฮาเดส การเจรจาครั้งนั้นมีเงื่อนไขว่า หากเพอร์ซีโฟเน่ยังมิได้เสวยอาหารใดๆในยมโลก ฮาเดสต้องส่งนางกลับคืนทันที แต่หากนางเสวยสิ่งใดแล้วฮาเดสก็มีสิทธิ์ใน ตัวนาง ซึ่งขณะที่อยู่ในยมโลกนั้น เพอร์ซีโฟเน่ได้เสวยผลทับทิมลงไป 6 เมล็ด จึงตกลงกันว่าใน 1 ปี เพอร์ซีโฟเน่จะอยู่ในยมโลกกับฮาเดส 6 เดือน และกลับมาอยู่กับมารดา 6 เดือนสลับกันไป

ระหว่างที่เทวีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เพอร์ซีโฟเน่กลับมาอยู่บนพื้นโลกกับมารดา ก็หมายถึงฤดูใบไม้ผลิมาเยือน เทวีแห่งธัญญาหารก็รู้สึกยินดีมีความสุข พืชพันธุ์ก็ผลิดอกออกผลสดชื่นเขียวขจี แต่ครั้นเพอร์ซีโฟเน่กลับลงสู่ยมโลก เทวีแห่งธัญญาหารก็จะเก็บตัวอยู่เงียบๆอย่างเหงาหงอย ใบไม้ก็จะกลายเป็นสีเหลืองร่วงหล่นสู่พื้น พืชพันธุ์พากันอับเฉาลมหนาว กรรโชกแรง ท้องฟ้ามืดหม่น กลายเป็นฤดูแล้ง และฤดูหนาวไป





วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการเรียนและจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
1: อ่านให้มาก การอ่านบทความ, หนังสือ, นิตยสาร ภาษาอังกฤษเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้อ่านได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ หากต้องการเพิ่มคำศัพท์จำนวนมาก ผมอยากแนะนำให้อ่านหนังสือหรือบทความใน field ที่เราไม่คุ้นเคย, หาหนังสือที่สนุกสนานหรือเราสนใจจะได้อ่านมากขึ้น, รวมทั้งให้พยายามจดคำศัพท์ร้อมประโยคที่เราได้อ่านและเปิด dictionary กลับมาทบทวน
2: ให้เล่นเกมส์เกี่ยวกับคำศัพท์โดยเฉพาะเกมส์ประเภท Scrabble, Boggle, หรือ Hangman เพราะเกมส์เหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้เราคิดถึงคำศัพท์จำนวนมาก สำหรับการเล่นเกมส์ Scrabble ก็เล่นแบบที่อนุญาตให้เปิด dictionary ก็ได้ครับจะพยายามค้นขว้าหาคำศัพท์มากขึ้น ไม่ใช่ใส่แต่คำว่า “dog”, “cat” หรือ “apple” เท่านั้นนะ
3: ให้เล่นปริศนาอักษรไขว (crosswords) ให้ลองเริ่มจากนิตยสารง่ายๆ อย่างเช่น Student Weekly หรือ NJ แล้วต่อค่อยมาเล่นที่ Bangkok Post ก็ได้ครับจะได้ไม่ท้อครับ
4: ให้ใช้ dictionary เป็นประจำ ผมอยากแนะนำให้ใช้ dictionary ภาษาอังกฤษเป็นภาษาอังกฤษนะครับ เราจะได้ไม่เป็นเหมือนนกแก้วนกขุนทองนะครับ คือท่องลูกเดียวแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมเคยมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่งมีความตั้งใจในการเรียนภาษาอังกฤษมาก หากแต่น้องเค้าจะเน้นการท่องจำเพียงอย่างเดียวเมื่อพบกับคำศัพท์ว่า “rodent” น้องเค้าก็ตอบผมเลยว่ามันคือสัตว์ฟันแทะ หากแต่บทความที่เราอ่านกันอยู่เป็นเรื่องของ Mickey Mouse ซึ่งผมก็เลยถามน้องว่าสัตว์ฟันแทะที่ว่าคืออะไร น้องเค้าประหลาดใจกับคำถามครับ หากแต่ก็ไม่สามารถตอบได้ ซึ่งจริงๆ แล้วผู้เขียนต้องการสื่อสารถึง Mickey Mouse เจ้าหนูที่น่ารักและก็จัดว่าเป็นสัตว์ฟันแทะนะครับ ดังนั้นการใช้ dictionary อังกฤษเป็นอังกฤษจะฝึกให้เราอ่านเพื่อความเข้าใจว่ากว่าการท่องเป็นนกแก้วนก ขุนทองนะครับ
5: ทบทวน-ทบทวน-ทบทวน ครับวิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถจดจำคำศัพท์ได้ดีครับ ลองทำ flash card (กระดาษจดศัพท์ที่เราสามารถจับมันมา review ในทุกวัน) และลองทบทวนเมื่อตอนรถติด หรือระหว่างรอแฟนก็ได้นะครับ จะได้ฆ่าเวลาดีครับ รวมทั้งสามารถประหยัดค่าโทรศัพท์ได้มากเนื่องจากไม่ต้องไปโทรคุยกันเรื่อยๆ เปื่อยนะครับ และหากสามารถนำคำศัพท์เหล่านั้นมาใช้ได้ในการเรียนหรือการทำงานในวันนั้น ต้องขอคารวะตัวเองเลยครับ เพราะท่านจะจำคำศัพท์คำนั้นได้เป็นเวลานานและใช้มันได้ถูกต้องด้วย
6: ลองค้นทาง website เพื่อหาสมัคร “word of the day” หรือซื้อประเภทปฏิทินฉีกที่มีการแนะนำคำศัพท์วันละคำ ลอง download eBook ของที่ผมเคยเขียนขึ้นเพื่อหา idea เพิ่มก็ได้ครับ
7: จัดตั้งกลุ่ม “study buddies” หรือคู่หูเพื่อท่องและเรียนรู้เกี่ยวกับศัพท์ จะได้เป็นแรงกระตุ้นซึ่งกันและกัน

หน้าใส ด้วยแอปเปิ้ล
-->
วิธีบำรุงใบหน้าใส ด้วยแอปเปิ้ล
วิธีบำรุงใบหน้าใส ด้วยแอปเปิ้ลทำได้ง่ายๆ ค่ะ เริ่มจากซื้อแอปเปิ้ลมาจากนั้นก็นำไปล้างให้สะอาด นำมาปอกเปลือก เอาเฉพาะเนื้อแอปเปิ้ลที่ได้หั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำไปปั่นในเครื่องปั่นพร้อมกับผสมน้ำผึ้งไปด้วยค่ะ สัก 1 ช้อนโต๊ะ จนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันละเอียด จากนั้นเรานำเนื้อแอปปิ้ลที่ปั่นละเอียดที่ได้มาตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆ ค่ะ แล้วนำมาพอกหน้า ด้วยการทาทิ้งไว้ให้ทั่วหน้าเป็นเวลา 10 – 15 นาที เมื่อครบตามเวลาแล้ว ให้คุณผู้หญิงล้างออกด้วยน้ำเย็น
การใช้แอปเปิ้ลผสมน้ำผึ่งปั่นละเอียดแล้วมาพอกหน้านั้น นอกจากจะเป็นการขจัดเซล์ผิวที่ตายแล้วบนใบหน้าของคุณผู้หญิงแล้ว ยังเป็นการช่วยบำรุงความชุ่มชื่นให้ใบหน้าคุณผู้หญิงดูสดใสเปล่งปลั่งด้วยนะคะ เคล็บลับหน้าใสง่ายๆ ด้วยสูตรธรรมชาติจากแอปเปิ้ลนี้ทำง่ายใช่ไหมละคะ ลองไปปฏิบัติตามกันดูในวันว่าง รับรองว่าคุณผู้หญิงจะต้องมีใบหน้าที่สวยใสอย่างแน่นอน