วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มติเอกฉันท์ให้มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนมหาวิทยาลัยให้ตรงกับประเทศ เพื่อนบ้านอาเซียน จากเดือนมิถุนายน เป็นเดือนกันยายนแทน เริ่มปีการศึกษา 2555



(6 ส.ค.) ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ครั้งที่ 4/2554 เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการเตรียมพร้อมมหาวิทยาลัยเข้าสู่ประชาคมอา เซียน โดยจะเริ่มภายในปีการศึกษา 2555 ด้วยการเลื่อนการเปิดภาคเรียนให้เป็นสากล จึงทำให้ต้องเปลี่ยนจากการเปิดภาคเรียนเดือนมิถุนายน เป็นราวต้นเดือนกันยายนแทน เหมือนกับประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 9 ประเทศที่มีการเปลี่ยนตรงกันแล้ว ซึ่งจะมีประโยชน์ในด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษาที่อาจจะเป็นอุปสรรคได้ หากการเปิด-ปิดภาคเรียนของไทยไม่ตรงกับประเทศสมาชิกอาเซียน

อย่างไรก็ดี นอกจากไทยต้องปรับเข้าหาประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังมีประเด็นที่ประเทศเพื่อนบ้านต้องปรับบ้าง คือ จำนวนปีที่นักเรียนเรียนก่อนเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ประเทศไทยและบางประเทศใช้เวลาเรียน 12 ปี แต่สำหรับพม่าและฟิลิปปินส์เรียน 10 ปี จึงอาจต้องออกแบบหลักสูตรให้ประเทศที่เรียนจำนวนปีน้อยกว่าได้เรียนเพิ่ม เช่น อาจมีวิชาปรับพื้นฐาน เป็นต้น เนื่องจากอาจจะกระทบกับอัตราค่าจ้างได้ หากจบปริญญาตรี แต่มีการเรียนในจำนวนปีที่น้อยกว่า เป็นต้น ส่วนประเด็นการรองรับวิทยฐานะ เป็นรายละเอียดที่จะดูต่อในอนาคต


สำหรับการเตรียมการสอบรับตรงนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยร่วมกัน ประธาน ทปอ. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบเกี่ยวกับเรื่องเทคนิคไปแล้ว เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เช่น เรื่องการยืนยันสิทธิ การตัดสิทธิ การออกบัตรประจำตัวผู้สอบ โดยการรับตรงร่วมกันจะทำให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม เพื่อไม่ให้กระทบกับการสอบแอดมิชชั่นส์กลาง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม ดังนั้น เรื่องการออกข้อสอบ 7 วิชาได้เตรียมการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ มีการจัดเวิร์กชอปการเตรียมการด้านเทคนิคเรียบร้อยแล้ว กรอบเวลาต่างๆ ในการยืนยันสิทธิ ตัดสิทธิ ทำความเข้าใจกับสถาบันต่างๆ การสมัครหลายๆ มหาวิทยาลัยทำอย่างไร


ประธาน ทปอ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นพ้องต้องกันอีกหลายประเด็น อาทิ การเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานมหาวิทยาลัยทั้ง 79 แห่ง จำนวนร้อยละ 5 ซึ่งหากไม่รีบจัดสรรให้ทันปีงบประมาณ 2554 จะทำให้เกิดผลกระทบกับการจัดสรรงบประมาณบุคลากรปี 2555 โดย ทปอ.จะทำหนังสือยื่นไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ จากนั้นจะเข้าชี้แจงด้วยตนเอง