วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วิธีดู น้ำหอม ของแท้
เราจะรู้ได้ไงว่าน้ำหอมที่เราซื้อมาเป็น ของแท้ จะทำยังไงถึงจะรู้ว่าน้ำหอมของแท้รึเปล่า ร้านขายน้ำหอมมีเต็มไปหมด แต่สิ่งที่ต้องการคือ น้ำหอมของแท้ หลายๆคนก็เข้าไปซื้อที่เค้าเตอร์ห้างเพื่อความสบายใจและมั่นใจว่าได้น้ำหอมของแท้100% แต่ราคาในเค้าเตอร์ห้างก็ใช่ว่าจะสามารถซื้อได้ทุกคน หรือ ซื้อได้ทุกกลิ่นที่เราต้องการ แต่ร้านที่ไม่ใช่เค้าเตอร์ห้างก็มีน้ำหอมของแท้มาขายราคาก็ถูกแสนถูก เพราะฉนั้นเราต้องมาหาวิธีดูว่าน้ำหอมของแท้100%
1. ซีลพลาสติก
น้ำหอม ของแท้ 80-90% มีซีลพลาสติก ซึ่งกาวที่ใช้ซีลพลาสติกก็มีความพิเศษ กาวที่ว่านี้จะมีความ ใส ใสมากๆ กาวนี้ปลอมยากมาก การติดกาวแต่ล่ะแบรนด์ก็ต่างกันถ้ามองดีๆจะเห็น เช่น DKNY จะติดกาว เป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า
และการซีลพลาสติกของแต่ล่ะแบรนด์ก็มีความแตกต่างกัน เราสามารถเข้าไปดูในเค้าเตอร์ห้างหรือสอบถามปอนด์ที่ http://www.parfumbeauty.com/ ก็ได้
2. กล่อง
น้ำหอม ของแท้ ทุกแบรน์ ต้องมีสิ่งที่ใช้ห่อหุ้ม กล่อง กระป๋อง พลาสติกทำเป็นกรอบ ในเมื่อแต่ล่ะแบรนด์มีความแตกต่าง ฉนั้นเราต้องไปหาดูก่อนว่ากล่องมันควรเป็นแบบไหน
3. ตัวหนังสือ
น้ำหอม ของแท้ ต้องมีตัวหนังสือที่คม ยี้ห้อชัดเจน แม้ว่าตัวหนังสือจะเล็กขนาดไหนก็ต้องอ่านได้ชัด ไม่เลือนลาง
4. ซับกล่อง
น้ำหอม ของแท้ ของในหล่อง จะมีซับกล่องอีกที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหอมขยับในกล่องทำให้น้ำหอมเสียหาย
5. รหัสต่างๆ
น้ำหอม ของแท้ จะมีรหัสอยู่ 2-3 แบบ แล้วแต่ว่าผู้ผลิตจะใช้รหัสรวมกัน หรือ แยก
5.1 รหัส ล๊อตผลิต
5.2 รหัส ประเทศจำหน่าย
5.3 รหัส รหัส สินค้า
การติดรหัสแต่ล่ะแบรนด์ก็จะต่างกัน ยิงด้วยเลเซอร์ ปั้มตัวยุบ ทำตัวนูน ทำตัวยุบลงไปแล้วใส่สี
ต้องมีรหัสอยู่ชุดนึงที่ กล่อง กับ ขวด ตรงกัน บางแบรนด์ก็ใช้ รหัส ล๊อตผลิต
6. ขวดน้ำหอม
น้ำหอม ของแท้ จะมีขวดสวย ตามรอยต่อจะเรียบสนิทไม่บาทมือ ตัวหนังสือจะต้องคมรายละเอียดชัดเจน ยกเว้น รหัสกับบาร์โค้ดที่ยิงด้วยเลเซอร์ บาร์โค้ดอาจจะเบี้ยวๆนิดๆ
7. ก้านเสปรย์
น้ำหอม ของแท้ ส่วนใหญ่เราจะมองเห็นเข้าไปในขวด เราจะได้เห็นก้านเสปรย์ ส่วนก้านเสปรย์ที่ยังไม่เคยใช้ จะยังมีอากาศอยู่ประมาณครึ่งหลอด หรือเต็มหลอด อย่าลืมดูนะครับจะได้รู้ว่ามีใครแอบใช้ไปรึเปล่า
8. แอลกอฮอล์
น้ำหอม ของแท้ เมื่อเราทำการฉีดที่ข้อมือเพื่อลองดม จะมีกลิ่นของ แอลกอฮอล์ ไม่แรงจนเกินไป แต่จะมีบางตัวที่กลิ่นแอลกอฮอล์แรง เช่น Bvlgari BLV Pour Homme EDT น้ำหอมตัวนี้ตอนฉีดครั้งแรงจะมีกลิ่นของ แอลกอฮอล์ ขึ้นมา แต่พอเราปล่อยให้น้ำหอมซึมเข้าผิว จะเหลือแต่กลิ่นสดชื่น น้ำหอมบางตัวต้องมีการเปรียบเทียบ
9. กลิ่น นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
น้ำหอม ของแท้ ไม่ว่าจะผลิตมาแล้ว ร้อยครั้ง พันครั้ง ผลิตครั้งที่ เท่าไหร่กลิ่นก็จะเหมือนเดิม ถ้าคุณเคยใช่แล้วต้องลองเทียบกับอันเก่าของคุณว่าเหมือนกันทุกอย่างรึเปล่า ทั้งความหอม และ ความทน เหมือนกันรึเปล่า
ทายนิสัยจากผลไม้
> กระท้อน
คนชอบกินกระท้อน จะมีลักษณะแข็งนอกอ่อนใน ดูภายนอกเหมือนคนก้าวร้าวแต่จริง ๆ จิตใจดี อ่อนไหวง่าย ไม่ชอบความรุนแรง รักสงบ
> กล้วย
สำหรับคนที่ชอบทานกล้วย ภายนอกดูจะเป็นคนเงียบขรึม แต่นิสัยจริง ๆ คืออ่อนไหวง่าย ถ้าถูกใครพูดกระทบกระแทกหน่อยก็จะเก็บเอาไปคิดเสียใจ เป็นคนโอบอ้อมอารีย์ มีเหตุผล รอบคอบ มองการณ์ไกล ชอบวางแผน อนาคตให้ตัวเองและคนที่อยู่รอบข้างเสมอ เป็นคนนิสัยรักสันโดษ เป็นคนที่มีจิตเป็นกุศล ชอบทำบุญแก่คนทุกข์ยาก
> เงาะ
สำหรับสาว ๆ ที่ชอบกินเงาะจะเป็นคนค่อนข้างขี้เล่น สามารถทำให้คนรอบข้างมีความสุขได้ ถึงคุณจะขี้โม้ไปบ้างแต่เพื่อน ๆ ก็ชอบในความร่าเริงสนุกสนานของคุณ
> ชมพู่
สำหรับคนขี้เกรงใจ จะชอบกินชมพู่มากเป็นพิเศษ มีความอดทนสูง ยิ้มได้ในทุกสถานการณ์ แต่เป็นคนมองโลกในแง่ร้ายและคิดมาก แต่ไม่ชอบที่จะทำร้ายจิตใจใครจริง ๆ ดังนั้นถ้าหนุ่มคนไหน ชอบกินชมพู่เป็นพิเศษหล่ะ ก็ควรจะเอาใจเค้าให้มาก เพราะเค้าจะคิดอะไร ๆ ไปในทางลบเสมอ
> แตงโม
เป็นของว่างจานโปรดสำหรับสาวใจกว้าง อ่อนโยน มีน้ำใจกับมิตรสหาย ซื่อสัตย์ไม่คิดคดทรยศ เป็นคนง่าย ๆ มองโลกในแง่ดี จะไม่ค่อยโวยวายหรือคิดมาก ตั้งอกตั้งใจทำงานดี แต่มักแพ้ภัยแก่เพศตรงข้าม และคนที่ชอบกินแตงโมจะเป็นคนที่รักใคร่เอ็นดูของเพื่อนฝูงอีกด้วย
> ฝรั่ง
สาว ๆ ที่ชอบฝรั่งมักเป็นคนรักอิสระ ชอบที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ชอบทำอะไรซ้ำซากจำเจ
> มะพร้าว
เพื่อน ๆ ที่ชอบมะพร้าวมักเป็นคนใจบุญ มีจิตเป็นกุศล มองโลกในแง่ดี วาจาคมคาย พูดจาเหน็บคนให้เจ็บด้วยใบหน้าที่ใสซื่อเก่งนักแหละ
> มะละกอ
ผลไม้โปรดของคนที่มีน้ำอดน้ำทนสูง มีความคิดลุ่มลึก คิดเป็นเหตุเป็นผล วางแผนแยบยล โอบอ้อมอารีย์
> มังคุด
เหมาะสำหรับคนที่เก็บเนื้อเก็บตัว ช่างฝันและมีอารมณ์โรแมนติก อ่อนไหวง่าย รักใครได้ง่าย ๆ และเก็บเอาไปนึกคิดคนเดียว แต่ไม่นานก็ลืมเอาดื้อ ๆ แล้วก็ไปหลงคนอื่นต่อไปเรื่อยเปื่อย พูดง่าย ๆ คือเป็นผลไม้สำหรับคนเจ้าชู้ไงจ๊ะ
> ลองกอง
พวกที่ยึดเอาลองกองเป็นอาหารหลัก เป็นคนรักสันโดษ ชอบเดินทาง ชอบการผจญภัยในที่ที่ตนเองไม่เคยไป อนุรักษ์นิยม
> ลางสาด
สำหรับเพื่อน ๆ ที่เลือกลางสาดเป็นผลไม้หลัก จะเป็นคนอนุรักษ์นิยม ยึดมั่นในแนวความคิดเก่า ๆ ชอบวิถีทางที่เคยทำมาแต่ก่อน แต่เป็นคนมีเหตุผล
> ลิ้นจี่
ผลไม้สำหรับคนชอบทำงานเบา ๆ ไม่ต้องใช้กำลังแรงงานมาก ๆ คนชอบทานลิ้นจี่กลัวเพื่อน ๆ จะลำบากน้อยกว่า เลยให้เพื่อน ๆ เอางานไปช่วยทำซะหมด ตัวเองคอยชักใยอยู่เบื้องหลังสบาย ๆ นี่เอง
> ลำไย
คนชอบทานผลไม้เม็ดเล็กชนิดนี้มักเป็นคนปากหวาน ชอบประจบประแจง ใช้คำพูดยกยอคนให้หลงปลื้ม แต่มักเป็นคนชอบนินทาว่าร้ายคนอื่นลับหลัง
> สตรอเบอร์รี่
ถ้าชอบทานสตรอเบอร์รี่ บอกได้เลยว่าคุณเป็นสาวคุยสนุก มีอารมณ์ขัน ทำให้คนอื่นหัวเราะได้ตลอดเวลา เป็นที่ต้องการของเพื่อนๆ ในกลุ่ม และเมื่อจะพูดคุยหรือทำอะไรก็ต้องมีคนดู คนฟัง และค่อนข้างมีรสนิยมทีเดียว
> สาลี่
ผลไม้คุณหนู ผู้ที่ชอบทานมักจะมีนิสัยอ่อนหวาน สุภาพ อ่อนโยน ไม่ชอบขัดใจใคร มองโลกในแง่ดี ไม่นินทาว่าร้ายใคร นอกจากนี้ยังเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี
> ส้มเขียวหวาน
เห็นชอบส้มอย่างนี้เป็นคนทันสมัย หัวก้าวหน้า แต่มักมีนิสัยหึงหวงเพศตรงข้ามอยู่เนืองๆ มัธยัสถ์ รู้จักใช้จ่าย
> ส้มโอ
คนที่ชอบส้มโอจะเป็นคนที่รักความสบาย ความหรูหรา โอ่อ่า ใจอ่อนง่าย ถ้ามีใครๆ มาตื๊อก็คงยอมให้กันทุกอย่างแบบเทกระเป๋าไปเลย
> สัปปะรด
ผู้ที่ชอบกินเป็นคนที่แคร์คนอื่นมากเกินไป มัวแต่ไปเอาใจคนอื่นเกินไป ทำให้เพื่อนๆ มักจะรำคาญและเบื่อหน่ายอยู่เสมอ
> องุ่น
ผลไม้ยอดฮิตของคนสวยมีเสน่ห์ เพื่อนๆ ที่ชอบทาน มักเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย นิสัยร่าเริง มีความคิดความอ่านสุขุมรอบคอบ ปากกับใจไม่ค่อยตรงกันนัก ไม่ค่อยชอบบอกเรื่องส่วนตัวให้ใครรู้ง่าย ๆ
> แอ๊ปเปิ้ล
ผลไม้ของคนขี้เหงา ขาดเพื่อนไม่ได้ เป็นคนไม่ค่อยแคร์เรื่องความรัก คือนึกจะรักใครก็รัก นึกจะเลิกก็เลิกขึ้นมาง่ายๆ แต่จะเป็นคนที่มีความอดทนในเรื่องของการทำงาน
17 สูตร เพื่อผิวสวย !!!
...บำรุงผิวให้อ่อนเยาว์...
1. หากอยากให้ผิวพรรณผุดผ่องล่ะก็ ก่อนลงเล่นน้ำทะเลควรจะชโลมเบบี้ออยล์ให้ทั่วตัวก่อน แล้วค่อยใช้ทรายที่ชายทะเลขัดผิว ก่อนที่จะไปล้างตัวด้วยการเล่นน้ำทะเล แต่อย่าลืมทาครีมหรือโลชั่นกันแดดที่มี SPF 15 ด้วย ไม่งั้นผิวสวยๆจะไหม้เกรียมซะก่อนนะจ๊ะ
2. ส่วนสาวที่มีผิวบอบบาง ควรป้องกันผิวจากรังสียู่วีในแสงอาทิตย์ได้ด้วยการชโลมน้ำมันอัลมอนด์ลงบนผิวกายทุกครั้งหลังอาบน้ำ หรือจะใช้น้ำมันที่สกัดจากมะพร้าว ก็ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและลมหนาวได้เหมือนกัน
3. มอยส์เจอไรเซอร์ สำหรับสาวที่มีผิวไวและเกิดการระคายเคืองง่าย ควรเลือกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของกรดหรือน้ำหอม สังเกตได้บนฉลากของผลิตภัณฑ์จะเขียนคำว่า " Comedogenic " หมายถึงผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันนั่นเอง
4. สาวที่มีผิวธรรมดา แต่มักตกสะเก็ดและคันในช่วงหน้าหนาว ขอแนะนำให้ใช้โลขั่นที่มีความชุ่มชื้น ที่ออกแบบมาสำหรับคงความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
5. สาวที่อยากมีผิวขาวเนียนสว่างกระจ่างตา ทำได้โดยนำมะขามเปียกมาขัดถูผิวเวลาอาบน้ำ จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มไม่แห้งแตก ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอย่างนี้ด้วยยิ่งดีใหญ่ เพราะจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มเนียนน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
...ใส่ใจใบหน้าให้ใสปิ๊ง...
6. ดื่มน้ำแร่อย่างน้อย 1.5 ลิตรทุกวัน จะช่วยให้ผิวพรรณและใบหน้าสดใส
7. ใช้น้ำแร่เย็นเฉียบล้างหน้าเป็นประจำเช้า-เย็น จะช่วยลดรอยขรุขระบนใบหน้าได้ น้ำเย็นยังช่วยให้ผิวหน้าปรับสภาพและคืนสมดุลได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
8. สาวๆหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ผิวหน้าก็หิวน้ำได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหมั่นฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ใบหน้าคงความชุ่มชื้นได้ตลอดวัน
9. นำน้ำผึ้งมาอุ่นให้ได้อุณหภูมิพอเหมาะ แล้วพอกทาทั่วใบหน้าและลำคอ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเป็นการให้สารอาหารบำรุงกับผิวหน้าด้วย
10. ลองใช้น้ำผึ้งมาผสมน้ำนมอาบเหมือนพระนางคลีโอพัตราบ้างก็ได้ วิธีนี้จะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มนวลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
11. ใช้เมล็ดอัลมอนด์บดผสมกับโยเกิร์ต พอกทิ้งไว้ 18-20 นาที ใช้น้ำล้างหน้าแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ด จากนั้นล้างหน้าอีกครั้ง แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงผิวหน้าที่นุ่มนวลเนียนใส
...ถนอมผิวรอบดวงตา...
12. ทำความสะอาดรอบดวงตาอย่างละมุนละไม โดยเฉพาะสาวไหนที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ควรเลือกใช้โลชั่นเช็ดเครื่องสำอางที่ผลิตมาเป็นพิเศษสำหรับล้างเครื่องสำอางอย่างอายแชโดว์และมาสคาร่า
13. ก่อนเลือกซื้อครีมบำรุงรอบดวงตา ให้พิจารณาด้วยว่ามีส่วนผสมอะไรในครีมบ้าง เช่น ถ้าผสมชาเขียวซึ่งมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวของคุณให้สดใสขึ้น หรือถ้ามีส่วนผสมของคาโมมายล์ ก็จะช่วยในการผ่อนคลาย และปลอบประโลมผิวจากอาการระคายเคืองได้ดี
14. สำหรับสาวที่อยากชะลอริ้วรอยก่อนวัย ควรเลือกครีมบำรุงดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ขณะที่วิตามินบีจะช่วยซ่อมแซมผิว และวิตามินช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอย
15. ก่อนนอน ควรดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการใช้นิ้วมือแตะครีมบำรุงรอบดวงตา แล้วถูเนื้อครีมให้เข้ากัน วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อครีมผสมผสานทำงานได้ดีขึ้น แล้วแตะเบาๆบนผิวรอบดวงตา ปล่อยให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวจะช่วยบำรุงและชะลอริ้วรอยเพื่อผิวหน้าสดใส
16. ส่วนครีมบำรุงรอบดวงตาตอนเช้า เลือกชนิดเจลที่มีส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยลดริ้วรอยและปกป้องแสงแดด ทั้งนี้ไม่ควรใช้ครีมสำหรับใบหน้าทาบริเวณรอบดวงตา เพราะบางชนิดเนื้อครีมจะมีความเข้มข้นสูง และมีส่วนผสมของน้ำหอม และสี ซึ่งอาจทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองได้
17. สาวไหนนอนดึก สามารถแก้ขอบตาดำคล้ำได้ด้วยการฝานมันฝรั่งบางๆ แล้ววางลงบนเปลือกตาทั้งสองข้าง ทิ้งไว้ 10 นาที น้ำและความชุ่มชื้นจากมันฝรั่งจะซึมซาบเข้าสู่ผิว ช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาจางลงได้
7 วิธีช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น เร็วขึ้น และ ฉลาดขึ้น
1.ให้สมองทำงาน
อุปกรณ์ที่ลับสมองได้ดีที่สุดน่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ ใช่แล้ว เมื่อใดก็ตามที่สวม คุณจะสามารถกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจได้ “คำแนะนำที่ดีที่สุดเพื่อสมองที่แข็งแรงและเยาว์วัยคือการออกกำลังกาย” การออกกำลังกายอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ด้วย และจะช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มการพัฒนาเส้นเลือดฝอยในสมอง ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ฉะนั้นคนที่แข็งแรงจะมีสมองที่เฉียบคมและฉลาดขึ้นกว่าคนที่ไม่แข็งแรง เริ่มคิดออกกำลังกายกันได้แล้วครับ
2.ให้อาหารสมอง
การกินเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยพัฒนาสมอง เลือกกินอาหารที่ต้านอนุมูลอิสระเช่นผักและผลไม้ ที่มีประโยชน์แก่ร่างกายซึ่งก็จะมีประโยชน์แก่สมองของเราด้วย
3.เร่งความเร็ว
โดยธรรมชาติสมองจะเริ่มทำงานช้าลงเมื่ออายุเริ่มขึ้นเลขสาม มีงานอดิเรกที่มีความท้าทายและสนุกสนานหลายประเภทที่ทำให้สมองมีการพัฒนาเช่น ต่อจิ๊กซอว์ เล่นปิงปอง เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เรียนภาษาใหม่ เต้นแทงโก้ อื่นๆอีกมากมาย
4.สงบนิ่ง
ความเครียดในระดับสูงมีผลร้ายต่อเซลล์สมอง ความเครียดจะรบกวนกระบวนการรับรู้และการจำ การออกำลังกายช่วยคลายความเครียดได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การเล่นโยคะหรือฝึกสมาธิก็คลายเครียดได้ดีเช่นกัน
5.พักสมอง
การนอนหลับพักผ่อนเป็นการพักสมองที่ดีมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการพบทางออกที่สร้างสรรค์ให้กับปัญหาของวันต่อไป
6.หัวเราะบ้าง
อารมณ์ขันจะกระตุ้นส่วนต่างๆของสมองซึ่งสามารถใช้โดปามีนเป็นสารนำส่ง “ความรู้สึกดี” ให้เกิดขึ้น การหัวเราะทำให้เราฉลาดขึ้นหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นทำให้เรามีความสุข
7.ยิ่งแก่ ยิ่งเก่ง
คนมีอายุจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าเพราะมีข้อมูลในสมองที่จะเรียกใช้มากกว่าหนุ่มสาวนั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนวัย 50-60 คือผู้รอบรู้ เป็นคนที่เราไปหาเพื่อขอคำแนะนำได้ดี
อุปกรณ์ที่ลับสมองได้ดีที่สุดน่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ ใช่แล้ว เมื่อใดก็ตามที่สวม คุณจะสามารถกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจได้ “คำแนะนำที่ดีที่สุดเพื่อสมองที่แข็งแรงและเยาว์วัยคือการออกกำลังกาย” การออกกำลังกายอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ด้วย และจะช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มการพัฒนาเส้นเลือดฝอยในสมอง ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ฉะนั้นคนที่แข็งแรงจะมีสมองที่เฉียบคมและฉลาดขึ้นกว่าคนที่ไม่แข็งแรง เริ่มคิดออกกำลังกายกันได้แล้วครับ
2.ให้อาหารสมอง
การกินเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยพัฒนาสมอง เลือกกินอาหารที่ต้านอนุมูลอิสระเช่นผักและผลไม้ ที่มีประโยชน์แก่ร่างกายซึ่งก็จะมีประโยชน์แก่สมองของเราด้วย
3.เร่งความเร็ว
โดยธรรมชาติสมองจะเริ่มทำงานช้าลงเมื่ออายุเริ่มขึ้นเลขสาม มีงานอดิเรกที่มีความท้าทายและสนุกสนานหลายประเภทที่ทำให้สมองมีการพัฒนาเช่น ต่อจิ๊กซอว์ เล่นปิงปอง เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เรียนภาษาใหม่ เต้นแทงโก้ อื่นๆอีกมากมาย
4.สงบนิ่ง
ความเครียดในระดับสูงมีผลร้ายต่อเซลล์สมอง ความเครียดจะรบกวนกระบวนการรับรู้และการจำ การออกำลังกายช่วยคลายความเครียดได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การเล่นโยคะหรือฝึกสมาธิก็คลายเครียดได้ดีเช่นกัน
5.พักสมอง
การนอนหลับพักผ่อนเป็นการพักสมองที่ดีมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการพบทางออกที่สร้างสรรค์ให้กับปัญหาของวันต่อไป
6.หัวเราะบ้าง
อารมณ์ขันจะกระตุ้นส่วนต่างๆของสมองซึ่งสามารถใช้โดปามีนเป็นสารนำส่ง “ความรู้สึกดี” ให้เกิดขึ้น การหัวเราะทำให้เราฉลาดขึ้นหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นทำให้เรามีความสุข
7.ยิ่งแก่ ยิ่งเก่ง
คนมีอายุจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าเพราะมีข้อมูลในสมองที่จะเรียกใช้มากกว่าหนุ่มสาวนั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนวัย 50-60 คือผู้รอบรู้ เป็นคนที่เราไปหาเพื่อขอคำแนะนำได้ดี
น้ำผลไม้ที่ควรดื่มตามกรุ๊ปเลือด
คนเลือดกรุ๊ปโอ
ส่วนมากจะมีกรดในกระเพาะอาหารสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป เพราะจะย่อยยาก เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคอ้วน
เครื่องดื่มที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอคือ
• น้ำสับปะรด
• น้ำลูกพรุน
แต่ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิล น้ำส้ม น้ำกะหล่ำปลี
เลือดกรุ๊ปเอ
เรียกว่าตรงข้ามกับกรุ๊ปโอ แทบจะทุกอย่าง เพราะเลือดกรุ๊ปนี้จะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ จึงเหมาะกับอาหารมังสวิรัติและควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป เช่น
• ไส้กรอก
• แฮม
เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารดินประสิวที่ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เครื่องดื่มที่เหมาะสมกับคนเลือดกรุ๊ปเอก็คือ
• น้ำแอปพริคอต
• น้ำแคร์รอต •
น้ำเซเลอรี
• น้ำเกรปฟรุต
• น้ำสับปะรด
• น้ำมะนาว
เพราะมี วิตามินซีสูง แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้ม น้ำมะละกอ และน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปบี
เป็นกรุ๊ปเลือดที่สามารถต้านทานโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงควรกินอาหารจำพวก
• ผักใบเขียว
• ตับ
• ไข่
• นมไขมันต่ำ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ
• น้ำกะหล่ำปลี
• น้ำแครนเบอร์รี่
• น้ำองุ่น
• น้ำมะละกอ
• น้ำสับปะรด
เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะ แต่ให้ระวังการดื่มน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปเอบี
คนเลือดกรุ๊ปนี้ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น
• บร็อกโคลี่
• เชอร์รี่
• ส้มโอ
• เกรปฟรุต
• กะหล่ำปลี
• และดื่มน้ำแคร์รอต
• น้ำเซเลอรี
• น้ำแครนเบอร์รี่
• น้ำองุ่น • และน้ำมะละกอ
เพราะช่วยต้านมะเร็งได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้มเพราะทำให้ย่อยยาก
ส่วนมากจะมีกรดในกระเพาะอาหารสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป เพราะจะย่อยยาก เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคอ้วน
เครื่องดื่มที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอคือ
• น้ำสับปะรด
• น้ำลูกพรุน
แต่ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิล น้ำส้ม น้ำกะหล่ำปลี
เลือดกรุ๊ปเอ
เรียกว่าตรงข้ามกับกรุ๊ปโอ แทบจะทุกอย่าง เพราะเลือดกรุ๊ปนี้จะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ จึงเหมาะกับอาหารมังสวิรัติและควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป เช่น
• ไส้กรอก
• แฮม
เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารดินประสิวที่ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เครื่องดื่มที่เหมาะสมกับคนเลือดกรุ๊ปเอก็คือ
• น้ำแอปพริคอต
• น้ำแคร์รอต •
น้ำเซเลอรี
• น้ำเกรปฟรุต
• น้ำสับปะรด
• น้ำมะนาว
เพราะมี วิตามินซีสูง แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้ม น้ำมะละกอ และน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปบี
เป็นกรุ๊ปเลือดที่สามารถต้านทานโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงควรกินอาหารจำพวก
• ผักใบเขียว
• ตับ
• ไข่
• นมไขมันต่ำ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ
• น้ำกะหล่ำปลี
• น้ำแครนเบอร์รี่
• น้ำองุ่น
• น้ำมะละกอ
• น้ำสับปะรด
เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะ แต่ให้ระวังการดื่มน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปเอบี
คนเลือดกรุ๊ปนี้ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น
• บร็อกโคลี่
• เชอร์รี่
• ส้มโอ
• เกรปฟรุต
• กะหล่ำปลี
• และดื่มน้ำแคร์รอต
• น้ำเซเลอรี
• น้ำแครนเบอร์รี่
• น้ำองุ่น • และน้ำมะละกอ
เพราะช่วยต้านมะเร็งได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้มเพราะทำให้ย่อยยาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)