วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ชาวเมารี (Maori)
เชื่อกันว่าชาวเมารี (Maori) ชนพื้นเมือง ที่อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ตั้งแต่ 2,000 ปี มาแล้ว โดยชาวเมารี เป็นชนเชื้อสายโพลีนีเซีย ที่อพยพมาจากทวีปเอเชีย แม้ว่าจากบทเพลง ที่ขับร้องสืบทอดกันมา จะกล่าวถึง การอพยพครั้งใหญ่ ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก็ตาม แต่ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ค้นพบวัตถุเครื่องมือ และเครื่องใช้ที่มีอายุเก่าแก่ นับพันปีบนเกาะแห่งนี้ เป็นจำนวนมาก
ชาวเมารีเป็นชนพื้นเมือง ที่มีอารยธรรม เป็นของตัวเอง มีจิตใจเป็นนักรบ และกล้าหาญ การรุกราน เข้าถือครองดินแดน ของชนชาวผิวขาว ที่ได้ทำกับชาวพื้นเมือง ในที่อื่น ๆ นั้นมิอาจ ที่จะทำได้โดยง่าย ณ ดินแดนแห่งนี้
ดินแดนริมฝั่งทะเล ที่ชาวเมารีเคยครอบครอง จึงถูกซื้อ โดยแลกเปลี่ยนกับอาวุธ สิ่งของเครื่องใช้ จากยุโรป และเมื่อชาวเมรี มีอาวุธที่ทันสมัยในครอบครอง ด้วยความที่เป็น "นักรบ" โดยชาติพันธุ์ ทำให้เมารีต่างเผ่า หันมาทำสงครามกันเอง อย่างต่อเนื่อง จนประชากรเมารีลดน้อยลง อย่างน่าใจหาย หนำซ้ำเชื้อโรคจากตะวันตก ที่ชาวเมรีไม่เคยพบ โดยเฉพาะหวัด และกามโรค ยังคร่าชีวิตชาวเมารี ทั้งชายและหญิง ไปเป็นจำนวนมาก
และหลังจาก ปักธงแห่งจักรภพอังกฤษ ณ ดินแดนแห่งนี้แล้ว ในปี พ.ศ.2383 อังกฤษได้ส่ง "กัปตันวิลเลียม ฮอบลัน" (William Hobson) เข้ามาดูแล และได้เจรจาเกลี้ยกล่อม ให้หัวหน้าเผ่าเมารี 45 คน ในเวลานั้น มาทำสัญญาสงบศึกกันที่ "ไวดังกิ" (Waitangi) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2383 ซึ่งปัจจุบันถือเป็น "วันชาติของนิวซีแลนด์" (Wailangi Day) โดยสนธิสัญญาไวตังกินี้ นอกจากจะเป็นการสงบศึก ระหว่างเมารีต่างเผ่าแล้ว ยังเป็นการพยายาม ขจัดข้อขัดแย้งระหว่างเมารี กับชนผิวขาวที่เกิดขึ้นอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น ความขัดแย้งนี้ ก็ยังคงมีอยู่ จนถึงปี พ.ศ.2408 และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ของชาวเมารี ซึ่งมีทั้งกำลังคน และกำลังอาวุธที่น้อยกว่า
จากนั้นชาวยุโรป ที่อพยพเข้าสู่นิวซีแลนด์ ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ล้วนแต่เป็นบุคคลที่รักสงบ และด้วยสภาพธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้อาชีพหลักของคนผิวขาว ที่อพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐาน ในนิวซีแลนด์ คือ เกษตรกรรม และแม้ว่า จะมียุคตื่นทอง เกิดขึ้นช่วงเวลาสั้น ๆ ในปี พ.ศ.2403 แต่จำนวนทอง ที่มีไม่มากพอ จึงทำให้ผู้คนเข้ามา ยังนิวซีแลนด์ไม่มากจนเกินไป ขณะที่ชีวิตของชนผิวขาว เริ่มเข้าที่เข้าทาง ชนพื้นเมืองเมรีดั้งเดิม ก็ให้การยอมรับนับถือ เฉกเช่นเป็นผู้คนที่ทัดเทียมกัน ความขัดแย้งระหว่างเมารี กับคนขาวจึงค่อย ๆ จางหายไป ขณะเดียวกัน การแต่งงานระหว่างคนขาว กับเมารีก็เพิ่มมากขึ้น ประชากรเมารี จึงมีจำนวนมากกว่า 400,000 คน
โดยปัจจุบัน ประชากรส่วนใหญ่ ในนิวซีแลนด์เป็นชาวยุโรป ซึ่งถูกชนเผ่าเมารีเรียกว่า "ปาเคฮา" (Pakeha) โดยชาวอังกฤษ เป็นพวกแรก ๆ ที่เริ่มอพยพ เข้ามาอาศัย และตั้งถิ่นฐานของตนในช่วง 200 ปี ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ในช่วงศตวรรษที่แล้ว ชาวจีนเริ่มเข้ามาบุกเบิกในนิวซีแลนด์ ตามมาด้วยสแกนดิเนเวีย เยอรมัน กรีก อิตาลี อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน นิวซีแลนด์ มีเมืองหลวงชื่อ "กรุงเวลลิงตัน" (Wellington) มีเมืองสำคัญ ๆ อย่าง เมืองโอ๊คแลนด์ หรือ เกาะเหนือ (Auckland) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด ในประเทศ เมืองไครสต์เชิร์ช (Christchourch) เมืองดันเนอดิน (Dunedin) (เกาะใต้) ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการ คือ ภาษาอังกฤษ และภาษาเมารี ปกครองรูปแบบประชาธิปไตยระบอบรัฐสภา และแม้ว่าปัจจุบัน นิวซีแลนด์จะมีสถานะ เป็นประเทศเอกราช แต่ยังคงอยู่ในการปกครอง ของเอกภพอังกฤษ โดยมีองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ แห่งอังกฤษ เป็นประมุขในการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารประเทศ และผู้สำเร็จราชการแทน จากอังกฤษประจำนิวซีแลนด์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น