1. ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ
คือการไม่เสแสร้งเข้าใส่กันและกัน การดูถูกดูหมิ่นและเหยียดหยามผู้อื่น ไม่เป็นคนวางท่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้เองที่เป็นเหตุให้คนเราขาดเพื่อนที่จริงใจ ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ผู้อื่นรักและชื่นชม ก็คงต้องปฏิบัติตัวเสียใหม่ ทำตัวเราให้น่ารัก เป็นคนที่พูดจาจริงใจ ปากตรงกับใจเป็นดีที่สุด และไม่ควรกระทำการใดๆ ที่ผู้อื่นเดือดร้อนโดยเด็ดขาด
2. อารมณ์ดี
เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ร่าเริง ไม่เคร่งเครียดคิ้วขมวดติดกัน เพราะคงไม่มีใครที่อยากเข้าใกล้กับคนที่มีนิสัยขี้หงุดหงิด ขี้โมโห ฉุนเฉียว มีความก้าวร้าว อารมณ์ร้าย และรุนแรง หรือเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนง่ายๆ และยิ่งถ้าเราเป็นคนอารมณ์ไม่ดีอยู่เสมอๆ ต้องหาสาเหตุแล้วแก้ไข มิฉะนั้น ตัวของเราเองจะกลายเป็นคนไร้เพื่อน และสังคมไม่ให้การยอมรับอีกด้วย เพราะคนอื่นๆ จะดีตัวออกห่างเราไปทีละคนสองคน เพื่อไปหาคนที่อารมณ์ดีที่เขาอยู่ใกล้แล้วสบายใจ
3. สนใจฟัง "เขา" มิใช่พูดแต่เรื่องของตนเอง
เช่น เรากำลังสนทนาอยู่ในกลุ่มเพื่อน แต่เราคุยฟุ้งแต่เรื่องส่วนตัวของเรา.."เมื่อวานนี้ไปเที่ยวทะเลมา สนุกมาก ได้เล่นน้ำทะเลกันจนเย็นแถมตัวดำอีก พอกลับมาเมื่อเช้านี้คุณแม่เกิดไม่สบายกะทันหัน ต้องพาไปโรงพยาบาล และไม่มีใครดูแลคุณพ่อที่เป็นอัมพฤกษ์.."
จากคำพูดข้างต้น คนที่พูดก็ช่างเจรจาเหลือเกิน พูดถึงแต่เรื่องตัวเอง โดยที่ไม่เปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ในกลุ่มใดพูด หรือแสดงความคิดเห็นบ้างเลย ซึ่งจริงๆ แล้วคนเราที่เป็นกลุ่มเพื่อนกันก็คงต้องการคุยเรื่องของตนเองให้เพื่อนฟังบ้างแต่ต้องมีการแลกเปลี่ยน และสนใจเรื่องของเขามากกว่าพูดแต่เรื่องของตนเอง
4. รู้จัก "ให้" และ "รับ"
ข้อนี้คงไม่ต้องบอก เพราะใครๆ ก็รู้ แต่ก็มีคนจำนวนมากไม่ยอมปฏิบัติ มีแต่จะรับข้างเดียว หวังแต่ผลประโยชน์ที่จะเกิดกับตัวเองเพียงเท่านั้น ส่วนคนอื่นไม่สนใจ ซึ่งคนประเภทที่ชอบรับข้างเดียว ไม่ได้ให้ผู้อื่นตอบแทนบ้างเลย จัดเป็นคนที่มีลักษณะเป็นคนเห็นแก่ตัว..คนมักมาก, คนเอาเปรียบ, คนเอาแต่ได้ แต่คนที่ให้มากกว่ารับจะมีเพื่อนมากกว่าคนที่รับมากกว่าให้อย่างแน่นอน
การให้และการรับไม่ได้หมายความเฉพาะวัตถุ แต่รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน หรือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นการให้ที่มีคุณค่ามาก และโดยปกติคนทั่วไปก็คงชอบคนที่ให้เราบ้างยอมรับจากเราบ้างเพราะเวลาเขารับอะไรจากเรา เรารู้สึกดีใจและพอใจ แต่ถ้าคุณเป็นฝ่ายรับจากเขาอยู่ข้างเดียว ก็คงต้องรู้สึกระอาใจบ้างไม่มากก็น้อย
5. มองโลกในแง่ดี
เราลองหันไปมองรอบๆ ตัวเราว่าเป็นอย่างไร โดยขอให้มีโลกทัศน์ที่กว้างไกล ไม่ตำหนิ หรือติเตียนสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น คนนี้เป็นคนไม่ดี บ้านนี้มีอะไรที่แปลกและน่ากลัว ผู้หญิงคนนี้ไม่น่าคบ ฯลฯ คงเห็นแล้วว่าถ้าคนเรามีความคิดเช่นนี้กันทุกคน สังคมก็คงวุ่นวายน่าดูและคงมีแต่ปัญหามากมายที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเราลองมองโลกในแง่ดีบ้าง และทำเป็นประจำอยู่ตลอด คนที่อยู่ใกล้เราก็จะมีความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น