วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ช่วงนี้อากาศค่อนข้างชื้น ฝนตกเกือบทุกวัน มีน้องๆ หลายคนบ่นว่าเริ่มไม่สบายเป็นหวัดกันเป็นแถว บางคนถ้าไม่ได้ป่วยมากก็มักจะซื้อยามากินเอง แต่ถ้าอาการหนักหน่อยก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการให้ละเอียด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา คุณหมอก็มักจะให้ยามากินโดยมักจะบอกให้กินให้ต่อเนื่องจนครบตามที่คุณหมอให้ไป และหลังจากกินยาควรดื่มน้ำตามมากๆ


ทำไมคุณหมอถึงต้องกำชับให้เราดื่มตามมากๆ หลังจากกินยา ... มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินยาที่ไม่ถูกต้องซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการ "ยาแตกตัวในหลอดอาหาร" โดยอาการผิดปกตินี้เกิดขึ้นกับผู้ประกาศข่าวชื่อดัง "ไก่ ภาษิต" ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าถึงอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ว่าตนเคยมีอาการเจ็บคอโดยไม่มีสาเหตุ เวลาหายใจลึกๆ จะเจ็บคอมาก ตอนแรกคิดว่าตนเองเป็นโรคกรดไหลย้อน พอเริ่มมีอาการหนักขึ้นจึงไปหาหมอเพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งปรากฏว่าคุณหมอได้ตรวจพบแผลบริเวณรอบๆ หลอดอาหาร โดยมีลักษณะเป็นผื่นสีแดงเป็นจ้ำๆ

ผู้ประกาศชื่อดังเล่าต่อว่า อาการดังกล่าวนั้นเกิดจากการที่ในช่วงที่ผ่านมาเขามีอาการป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดาแล้วไม่ได้ไปหาหมอแต่หายามากินเอง โดยเวลาที่กินยานั้นบางครั้งก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามเพราะคิดว่าเดี๋ยวยาก็ไปละลายในกระเพาะเอง ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิดมากๆ
เพราะการกินยาโดยที่ไม่ดื่มน้ำตามทำให้ยาไปติดอยู่ที่ตรงหลอดอาหาร ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างคอหอยกับกระเพาะอาหาร พอยาไปติดอยู่บริเวณดังกล่าวก็จะไปกัดทำให้หลอดอาหารเกิดแผล พอเกิดแผลมากๆ คนที่กินยาจะรู้สึกเลยว่าร้อน แน่นหน้าอก ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการกินยา 2 ประเภท คือ ยาที่เป็นกรด ประเภทวิตามินซี และยาที่เป็นพวกแคปซูลเหนียวๆ จะมีปัญหาติดหลอดลมมาก

ดังนั้น พี่เหมี่ยวจึงขอแนะนำวิธีกินยาที่ถูกต้องก็คือ จะต้องดื่มน้ำตามเยอะๆ หลังจากที่กินยา และรอประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนล้มตัวลงนอน เพื่อให้มั่นใจว่ายาที่กินเข้าไปผ่านไปยังกระเพาะอาหาร เพราะยาบางอย่างเวลาดื่มน้ำตามเยอะเราจะรู้สึกเลยว่ามันจะไหลจากคอลงไปท้อง แต่ถ้าเรากินน้ำน้อยบางทีจะไม่รู้สึก จำไว้นะคะว่าการที่เรารู้สึกว่ายาหายจากคอไป ไม่ได้หมายความว่ายาลงไปที่กระเพาะอาหาร ซึ่งจริงๆ มันอาจจะไปติดอยู่ที่หลอดอาหารก็ได้
นอกจากนี้พฤติกรรมการกินยาที่ถูกต้องอีกอย่างหนึ่งก็คือ สำหรับการกินยาก่อนนอน หลังจากกินยาแล้วอย่าเพิ่งเอนตัวลงนอนทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีภาวะกรดไหลย้อน ถ้ายาไปอยู่ตรงหลอดอาหารพอดีก็จะทำให้เกิดแผล จนแผลทะลุ ถ้าเป็นแผลเรื้อรังนานๆ อาจเป็นมะเร็งได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น